การปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร

• ปีการศึกษา 2567 มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรหลายส่วน โดยสรุปการดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรสถานศึกษา  ดังนี้

  • เปิดหลักสูตรห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ Mathematics-English Special : MES ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 

  • ปรับเพิ่มรายวิชาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กำหนดไว้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย กำหนดไว้ในรายวิชาเพิ่มเติมตามแผนการเรียนรวมทั้งบูรณาการไว้ในรายวิชาสังคมศึกษาและกิจกรรมเสริมหลักสูตร

  • ปรับโครงสร้างหลักสูตรห้องเรียนปกติ (ห้อง 8) เป็นห้องเรียนโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ  ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นโดยนักเรียนไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 

  • ปรับลดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของห้องเรียนพิเศษ Mini English Program : MEP เดิมกำหนดให้เรียนเพิ่มเติมภาคเรียนละ 2 หน่วยกิต ปรับลดเหลือภาคเรียนละ 1 หน่วยกิต เรียนรายวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เพื่อให้โครงสร้างเวลาเรียนต่อสัปดาห์ไม่มากจนเกินไป 

  • เข้าร่วมโครงการห้องเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์  ร่วมกับ ศูนย์พัฒนศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ K-EES (KMITL Engineering Extension School)ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ (พื้นฐานวิศวกรรม) 

  • ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชาตามตัวชี้วัดระหว่างทางและตัวชี้วัดปลายทาง ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

• ปีการศึกษา 2566 มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรหลายส่วน โดยสรุปการดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรสถานศึกษา  ดังนี้

  • ปรับปรุงหน่วยกิต รายวิชา สุขศึกษาและพลศึกษา และปรับเปลี่ยนรายวิชาพลศึกษาเพิ่มเติม เป็นรายวิชา สุขภาพและกีฬา จากรายวิชาละ 0.5 หน่วยกิต ปรับเป็นรายวิชาละ 1.0 หน่วยกิต ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3) เพื่อลดจำนวนรายวิชาเรียนต่อภาคเรียน ตลอดจนเพื่อลดอัตราจำนวนนักเรียนที่มีผลการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์

  • ปรับเปลี่ยนให้มีกลุ่มรายวิชาเพิ่มเติมเลือกแบบ Block Course Tracking ในแผนการเรียนสังคมศึกษา - บริหารธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มการเรียนวิชา สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มการเรียนวิชา  ศิลปกรรมศาสตร์ กลุ่มการเรียนวิชา  ดุริยางคศิลป์ตะวันตกฯ กลุ่มการเรียนวิชา  นาฎศิลป์และการแสดง และกลุ่มการเรียนวิชา  การงานอาชีพ (คหกรรม-เกษตรกรรม-อุตสาหกรรม) โดยกำหนดให้นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จะเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเบื้องต้นในทุกกลุ่มสาขาวิชา และทำการเลือกเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

  • ปรับปรุงรายวิชาเพิ่มเติม ภาษาอังกฤษในทุกแผนการเรียน โดยกำหนดให้ห้องเรียนปกติทุกห้องเรียนรายวิชา ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันกับครูชาวต่างชาติ และปรับเปลี่ยนรายวิชาเพิ่มเติมของแผนการเรียนภาษาอังกฤษ โดยกำหนดให้เรียนวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียนและรายวิชาภาษาอังกฤษและวัฒนธรรม วิชาละ 1.0 หน่วยกิตในทุกภาคเรียน

  • ปรับปรุงรายวิชา ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร และรายวิชาวัฒนธรรมจีน จากเดิมรายวิชาละ 1.0 หน่วยกิต ควบรวมเป็นรายวิชา การสื่อสารและวัฒนธรรมจีน จำนวน 2.0 หน่วยกิต และตัดรายวิชาการวัดระดับภาษาจีน HSK เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการสมัครสอบ จึงเปิดเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนที่ต้องการสมัครสอบ โดยบูรณาการเนื้อหาสาระไว้ในรายวิชาภาษาจีน

  • ปรับปรุงรายวิชา ภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสาร และรายวิชาวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากเดิมรายวิชาละ 1.0 หน่วยกิต ควบรวมเป็นรายวิชา การสื่อสารและวัฒนธรรมจีน จำนวน 2.0 หน่วยกิต เพื่อลดจำนวนรายวิชาเรียนต่อภาคเรียน

• ปีการศึกษา 2565 มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรหลายส่วน โดยสรุปการดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรสถานศึกษา  ดังนี้

  • เปิดหลักสูตรห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ อาชีพ Mathematics-Computer-Career : MCC ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

  • ปรับปรุงหน่วยกิต รายวิชา การงานอาชีพ  รายวิชา ทักษะอาชีพ รายวิชา ศิลปะ และรายวิชา ศิลปะรอบรู้ จากรายวิชาละ 0.5 หน่วยกิต ปรับเป็นรายวิชาละ 1.0 หน่วยกิต ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3) เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเข้มข้น ลดจำนวนรายวิชาเรียนต่อภาคเรียน ตลอดจนเพื่อลดอัตราจำนวนนักเรียนที่มีผลการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์เป็นจำนวนมาก

  • ปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรแผนการเรียนคณิตศาสตร์ - คอมพิวเตอร์ และเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นแผนการเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ (วิทย์-คอม) และกำหนดให้มีการเลือกรายวิชาเพิ่มเติมแบบ Block Course Tracking ประกอบด้วย กลุ่มการเรียนพื้นฐานวิศวกรรม (เน้นฟิสิกส์ เขียนแบบ วิศวกรรม) และกลุ่มการเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ (เน้นไอทีเข้มข้น)

• ปีการศึกษา 2564 มีการจัดทำห้องเรียนนำร่องโครงการห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ อาชีพ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (Pilot Study) เพื่อทดลองใช้หลักสูตรกับกลุ่มตัวอย่างนักเรียนห้องเรียนปกติ ก่อนทำการขออนุญาตเปิดห้องเรียนพิเศษในปีการศึกษาถัดไป

• ปีการศึกษา 2563 ปรับลดวิชาวัดระดับภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการสมัครสอบ จึงเปิดเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนที่ต้องการสมัครสอบ โดยบูรณาการเนื้อหาสาระไว้ในรายวิชาภาษาญี่ปุ่น และกำหนดให้นักเรียนเรียนรายวิชาเพิ่มเติมภาษาอังกฤษทดแทนรายวิชาเดิม

• ปีการศึกษา 2562 ปรับเพิ่มรายวิชาเพิ่มเติม ทักษะอาชีพ จำนวน 0.5 หน่วยกิต ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติทักษะที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรให้มีความเข้มข้นมากขึ้น

• ปีการศึกษา 2561 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศใช้หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 โดยกำหนดดังนี้

  • ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)  ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แทนมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา  และวัฒนธรรม ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 

  • ใช้สาระการเรียนรู้เพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทพลีลา พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) 

  • ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเปลี่ยนชื่อสาระที่ 4 การงานอาชีพ  เป็น สาระที่ 2 การอาชีพ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

  • เปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โดยสรุปการดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรสถานศึกษา  พุทธศักราช 2561 ดังนี้

• • ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ห้องเรียนปกติ จำนวน 9 ห้องเรียน ห้องเรียนพิเศษ Mini English Program : MEP จำนวน 1 ห้องเรียน)

    •  ปรับเพิ่มเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 6 หน่วยกิต  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 หน่วยกิต สอดคล้องกับการปรับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    •  ปรับลดเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 3 หน่วยกิต และกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ 3 หน่วยกิต ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้และบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเดิมได้ครบถ้วน

    •  ปรับเพิ่มหน่วยกิตของรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 3 หน่วยกิต เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะและกระบวนการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สอดคล้องกับจุดเน้น ความพร้อมของสถานศึกษาและสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ได้คำนึงถึงศักยภาพและพัฒนาตามช่วงวัยของผู้เรียนและเกณฑ์การจบหลักสูตร

    • ปรับเปลี่ยนวิชาหน้าที่พลเมือง โดยจัดบูรณาการการเรียนรู้กับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน   ในส่วนของกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ กิจกรรม/โครงการ/โครงงานหรือวิถีชีวิตประจำวันในโรงเรียน

  • ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ห้องเรียนปกติ จำนวน 7 ห้องเรียน)

    • ปรับเปลี่ยนหน่วยกิตของรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6.0 หน่วยกิต เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะและกระบวนการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สอดคล้องกับจุดเน้น ความพร้อมของสถานศึกษาและสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ได้คำนึงถึงศักยภาพและพัฒนาตามช่วงวัยของผู้เรียนและเกณฑ์การจบหลักสูตร

    • กำหนดโครงสร้างแผนการเรียนทั้งสิ้น 6 แผนการเรียน ดังนี้ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์  (2 ห้อง) แผนการเรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ (1 ห้อง) แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาจีน (1 ห้อง) แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่น (1 ห้อง) แผนการเรียนภาษาไทย-สังคมศึกษา (1 ห้อง) และแผนการเรียนคณิตศาสตร์-คอมพิวเตอร์ (1 ห้อง)

• ปีการศึกษา 2559 ปรับโครงสร้างเวลาเรียน ตามนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" โดยระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีเวลาเรียนรวมทั้งหมด ไม่เกิน 1,200 ชั่วโมง/ปี โดยจัดกิจกรรมเพิ่มเวลารู้ผ่านการพัฒนา 4H - Hand Health Heart Head คือ กิจกรรมที่กำหนดให้เรียนและกิจกรรมที่เลือกเรียน โดยโรงเรียนเทพลีลาจัดเป็นกิจกรรมหลังเลิกเรียน และปรับเปลี่ยนรายวิชาหน้าที่พลเมือง โดยจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการลงสู่กิจกรรมที่สถานศึกษาดำเนินการอยู่แล้ว ไม่เพิ่มชั่วโมงในตารางเรียน

• ปีการศึกษา 2558 เพิ่มรายวิชาหน้าที่พลเมือง เป็นรายวิชาเพิ่มเติมในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทุกระดับชั้นและช่วงชั้นลงในหลักสูตรสถานศึกษา โดยกำหนดการประเมินผลเป็นรายวิชาละ 0.5 หน่วยกิต ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนละ 0.5 หน่วยกิต (ทุกภาคเรียน) และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนละ 0.5 หน่วยกิต (4 ภาคเรียน)

• ปีการศึกษา 2555 เข้าร่วมโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ปรับปรุงหลักสูตร กำหนดให้มีการจัดการเรียนการสอน รายวิชา IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ รายวิชา IS2 การสื่อสารและการนำเสนอ และกิจกรรม IS3 การนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม ไปใช้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4

• ปีการศึกษา 2554 เปิดหลักสูตรห้องเรียนพิเศษโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ Mini English Program (MEP) และ English Program (EP) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3)

• ปีการศึกษา 2552 เริ่มใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทพลีลา พุทธศักราช 2552 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ผู้เขียน : นายอนรรฆ สาสุข (หัวหน้างานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทพลีลา)

curriculum@tepleela.ac.th